เมื่อโปร 0 บาท ของแอร์เอเชียมา น้องหมีก็ไม่รีรอ เข้าเว็ปหาวันที่ถูกที่สุดละจองเลยค่ะ ไม่ได้คิดว่าจะไปเมื่อไรตอนไหนยังไง “มือมันลั่น” เห็นราคาดี จองเลย ค่อยจัดทริปทีหลัง และแล้วเราก็ได้ตั๋วเดินทางเชียงใหม่ วันที่ 15-17 พ.ย. 2559 (จองข้ามปี แทบลืมว่าเคยจองไว้)
งั้นมาเริ่มเลยแล้วกัน………. น้องหมีรีวิว แต่พี่หมีขอแจมด้วยสีน้ำเงินครับ ^____^
DAY 1
เช้าวันที่ 15 พ.ย. 2559 เราสามคน (พี่หมี, น้องหมี, และพี่สาวน้องหมี) ออกเดินทางจากสนามินดอนเมือง Flight ด้วย FD 3437 เวลา 6:30 น. ระหว่างรอเครื่อง เราก้แวะไปหาของฟรีที่ BurgerKing ได้กาแฟร้อนมา 1 แก้ว ^^ ตาสว่างเบย (ที่สนามบินมีโปรโมชั่นค่ายโทรศัพท์ รับเครื่องดืมฟรี หลายร้าน เช่น Black canyon , Burger King และ Daily queen เป็นต้น ประหยัดค่าน้ำและเอาไปกินบนเครื่องได้ )

7:30 น. เราก็เดือนเดินทางมาถึงสนามบินเชียงใหม่ ก็มุ่งหน้าไปหา ป้ายรถเมย์เมล์แต่บ่มีจร้า 555 เราก้เดินงงๆ กันยุซักพัก ก็ผู้ใจกล้าเดินไปถามเจ้าหน้าที่ พี่เค้าก็ชี้ไปตรงโน้น ประตู 4 ไม่รีรอ เดินด้วยความรวดเร็ว (แต่มันไม่ไกลกันเท่าไรนะ) พอมาถึงก้งงตับแตกอีกจร้า ไม่มีป้ายรถเมย์ แล้วจะขึ้นรถเมย์ตรงไหน (อยากจะบอกว่านิเมืองไทยนะ ทำไมเรามายืนงง อย่างกะยุต่างประเทศ 555 ) เราก็ยืนงงยุแพพ ก้มีรถสองแถวสีแดงผ่านมา โบกถามเลยค่ะ พี่ไปกาดหลวงไหมค่ะ “ไปครับ” กระโดดขึ้นรถซิค่ะ รอไร……….. (ทริป : พี่หมีมา 3 คน คิดราคาขึ้นเองว่าคนละสัก 20 บาท พี่หมียืนเงินให้ 100 บาท ยืนรอเงินทอนด้วย พี่คนขับบอกพี่ไม่มีเหรียญ 10 เลย สรุปคิดคนละ 30 บาท พี่หมีใจดีไม่เอาตังทอน สรุป 3 คน ค่า 100 บาทจ้าา พี่ศักดิ์เจ้าของวินรถตู้ บอกว่าถูกมว๊ากกก ปกติค่ารถสองแถวจากสนามบินเข้าเมืองจะประมาณ 40-50 บาท/คน สูตรนี้ได้ผล ให้เงินแล้วนิ่งๆ รอเงินทอน หุหุ แท็กซี่เหมาเข้าเมืองประมาณคันละ 150 บาท ถ้าเรียกใช้บริการ แอปพลิเคชั่นจะถูกกว่า)

มาถึงกาดหลวง (ตลาดเสาวรส ตลาดวโรรส) เราก็เดินหาไรกินก่อน เพราะนัดพี่รถตู้มารับตอน 11:40 น. เวลาเหลือเยอะ เดินๆๆๆ เดินไปสักพักก็เจอร้านขายหมูทอด, ใส่อั๋ว, แคบหมู, น้ำพริกหนุ่ม …….ร้าน ดำรงค์ ส่งทั่วราชอาณาจักรนะค่ะ (เบอร์ตามป้าย) แนะนำอร่อยม๊วกกกกก (ก่อนหาอะไรทานเราสำรวจจุดขึ้นรถตู้เเล้วเพื่อความปลอดภัย ^ ^)
ได้หมูทอดจากร้านดำรงค์ มาแล้ว เราก็เดินไปเดินมา จบที่ร้านโจ๊ก-ปาท่องโก้-ข้าวซอยไก่ค่ะ กะจะกินข้าวซอยไก่ซะหน่อย หมดค่ะ….ป้าเจ้าของร้านบอกอยากกินต้องมาตี 3 โอ๋แม่เจ้า นุ๋ยังไม่ตื่นอะ
Enter a caption
อิ่มท้อง…..ก็เดินไปรอรถตู้ จุดรอรถตู้ อยู่หลังตลาดเสาวรส ข้างริมแม่น้ำ ตรงสะพานลอยอันแรกเลยนะค่ะ คัยเห็นป้ายนี้ แปลว่า มาถูกที่แล้ว ( ใกล้สะพานลอย และด้านหลังซุ่มขายตั๋วติดกับแม่น้ำ)

แต่นิมันแค่ 9:30 เองอะ ทำไรกันต่อดี น้องหมีก็มีความคิด เราไปน้ำพุร้อนก่อนดีไหม แล้วให้พี่เค้าไปรับที่น้ำพุร้อน จะได้เที่ยวด้วย ไม่รีรอ พี่หมีก็โทรหาพี่รถตู้ คุยอยู่แพพนึง DEAL!!!! ค่ะ ไม่เสียเวลา นั่งรถตู้ เที่ยว 9:40 น.ไปน้ำพุร้อนกันก่อน แล้วที่รถตู้จะมารับเวลา 12:40 น.
( ตามตารางด้านล่าง รถตู้ไป แม่คำปองมีแค่ 2 เวลา ถ้าต้องการใช้บริการรถตู้เเนะนำให้โทรหาพี่จิระศักดิ์ (พี่ศักดิ์) มารู้ที่หลังว่าเป็นเจ้าของวินรถตู้ และเป็นคนขับไปส่งด้วยตัวเอง
ก่อนเดินทางสามารถโทรปรึกษาแกได้ทั้งการเดินทางและการท่องเที่ยว ทัศนคติการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และไม่เอาเปรียบลูกค้าดีเยี่ยม การที่เราได้นั้งรถตู้ราคา ยุติธรรมไปเที่ยวแม่กำปองเป็นเพราะพี่ศักดิ์ยืนยันว่าลูกค้าต้องได้รับการบริการในราคาที่เหมาะสม นักท่องเที่ยวจะได้แนะนำคนและกลับมาเที่ยวอีก ผมเห็นด้วยเเละแนะนำให้ทุกคนไปเที่ยวด้วยรถตู้ของพี่ศักดิ์ครับ โทรจองที่นั้งก่อนเพราะรถอาจจะเต็มได้ )

ถึงแล้ว
แช่น้ำร้อน กินไข่ออนเซน เราใช้เวลายุที่น้ำพุร้อย ประมานเกือบ 2 ชั่วโมง ก็ได้เวลาพี่รถตู้มารับแล้ว
(นั้งเอาเท้าแช่ลงไปในน้ำร้อนสบายมาก ยิ่งใกล้บ่อน้ำพุน้ำยิ่งร้อน แนะนำให้ลองจุ๋มดูที่ละนิด ถ้าตรงที่คุณจะนั้งจุ่มขาไม่มีคนนั้งเลย และ มีสายตาประหลาดจากคนแถวนั้นส่งมาหาคุณ นั้นเป็นสัญญาณบอกใบ้ว่า น้ำตรงนั้นร้อนมากกกก)
พี่ศักดิ์ เจ้าของวินรถตู้สาย เชียงใหม่-น้ำพุร้อนสันกำแพง และ เชียงใหม่-ลำพูน (สายเดียวที่ไปแม่กำปองนะค่ะ สำหรับคนไม่อยากเช่ารถไปนะ อย่างเรา)
(พี่ศักดิ์ใจดีมาก ค่ารถแค่คนละ 100 บาท ขั่นต่ำ 4 คนต่อเที่ยว ถ้าคนน้อยกว่านั้นพี่ศักดิ์คิด 400 ต่อเที่ยว หารจำนวนคน ถือว่าถูกมากท่าเทียบกับ เหมารถทั่วไป เบอร์ติดต่อพี่ศักดิ์ 083-325-4965 เที่ยวนึงไม่เกิน 10 คนนะ จองล่วงหน้าล่ะ)
ถึงแย้ว…….แม่กำปอง ของเรา ^^
(บรรยากาศสองข้างทาง ณ แม่กำปอง)
รถตู้จะมาส่งเราลงหน้า Flight of the Gibbon พวกเราก้เดินๆๆๆไปยังที่พักของเรา บ้านอิงดอย คนแถวนั้นบอกไม่ไกลแค่ 500 เมตร แม้ว (ช๊อตแพพ) ทำเอาเราเหนื่อยเหมือนกันนะ แต่อากาศดีมากบอกเลย
(Flight of gibbon เป็นกิจกรรมการโหนสลิงไปตามต้นไม้ จากฐานนึงไปอีกฐานนึง ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 2.30 ชม รับ เฉพาะเงินสดและจองล่วงหน้า 1 วัน ใครสนใจวางแผนกันเอาเองล่วงหน้านะงับ พี่หมีกับน้องหมีมีเงินไม่พอ เลย บ่ ได้ลองเล่นเบย T T )

บ้านอิงดอย เป็นบ้านพักเล็กๆๆ สไตล์โฮมสเตย์ มีเพียง 6 ห้อง แถมด้วยร้านกาแฟ น่ารักๆๆ ชื่อ Y Life (ไว้ลาย) กาแฟที่ร้านเจ้าของปลูกเอง คั่วเอง หอมอร่อย เมนูแนะนำ ชาเขียวลาเต้ร้อน หอมมากๆๆ
( จากที่พี่หมีคุยกับพี่เชิดเจ้าของบ้านอิงดอย แกบอดว่า แกซื้อเครื่องคั่วของอิตาลี เครื่องเล็กๆมาคั่วกาแฟเอง เรียนรู้ด้วยตัวเอง จนได้กาแฟในแบบของแกเอง ส่วนพี่วุฒิเป็นมือชงกาแฟที่อร่อยมาก ลาเต้อาร์ตรูปหงษ์แกก็เรียนด้วยตัวเอง น่าทึ่งสุดๆกับวิถีการใช้ชีวิตดีๆแบบนี้ น้องหมีบอกว่า กาแฟร้านนี้อร่อยสุดและสำหรับทริปนี้ )
ห้องพักของเรา (ราคาของบ้านอิงดอยไม่แพงเลย ตกคนละ 600 บาท แต่ถ้าสนใจอาหารเย็นก็เพิ่มอีกแค่ 150 บาทต่อคน เป็น 750 บาทเท่านั้นเอง)—-> ห้องพักมีแค่ 6 ห้อง โทรจองกับพี่วุฒิ เบอร์นี้ 0861826660 ครับ
เราใช้เวลาพักผ่อนสักแพพ แล้วก็เดินทาร้าน ชมนกชมไม้ (จุดcheck-point ของที่นี้ ห้ามพลาด) บอกเลยระหว่างทาง เนิน…..ชันกว่า 2 เนินที่เดินมาที่พักซะอีก
Take a time Spend some time กับร้านนี้สักแพพ เพื่อดื่มดำกับบรรยากาศที่สะอาด ปราศจากมลภาวะ เมนูที่เราสั่งก็จะมีชาเขียวร้อน กะเค้กอีกสักหน่อย Blueberry Cheesecake, Brownie, และ Scone ใช้เวลากับพวกมันสักแพพก้หายไปลงไปยุในท้องเป็นที่เรียบร้อย 😛 ( ร้านนี้ไม่ไกลจาก บ้าน อิงดอยสามารถเดิน แต่ขึ้นเนินชันๆนิดหน่อย ถ้านำรถเกียร์ธรรมดามาอาจจะขึ้นยากหน่อย แต่เกียร์ออโต้ไปได้ )
ใกล้เวลา 6 โมง อาหารเย็นของเราจะมาเสริฟแล้ว กลับบ้านไปกินกันดีกว่า (ปล.เราจองมาแบบมีอาหารเย็นนะจ๊ะ ประหยัดแถมได้ลองอาหารแบบบ้านๆ สไตล์คนเหนือ)
เมนูอาหารเย็นวันนี้ ขอเสนอ
- ลาบหมู แบบเหนือๆๆ (อันนี้พี่หมีชอบ ขอให้เค้าเก็บไว้ให้กินตอนเช้าอีกมื้อ)
- ผัดยอดฝักแม๊วใส่เห็ด
- แกงจืดผัดกาดขาวใส่ไส้กรอกกับหมู
- เมนูสุดท้าย ราชินีของมือนี้….ไข่ปาม (ไข่เจียวหน้าตาบ้านๆๆจานนี้ ความพิเศษของมันยุที่การนำไปทอด เพราะเค้าทอดบนใบตอง ทำให้มีกลิ่นหอมของใบตองมากๆๆ) —> ไข่ปามคลีนมาก พี่หมีอยากได้น้ำปลากับชูรสซักนิสส
ปล.อาหารเย็นไม่ได้ fix ตายตัว พี่เค้าจะดูว่าในตู้เย็นมีอะไรทำให้เราทานได้มังแล้วก้จะออกมาเปงเมนูง่ายๆ แต่อร่อยแบบคนแม่กำปอง ^^
( น้องหมีกับพี่สาวน้องหมี เหนื่อยและก็ง่วงแย่ว พี่หมีเลยอดนั่งกินเบียร์เบยยย จากที่เห็นที่แม่กำปองมีร้านเล็กๆน่านั้งหลายร้านแต่อาจจะปิดกันเร็วหน่อยนะ ครั้งหน้าไม่พลาด อิอิ)
DAY 2
เราตื่นกันตี 4:30 น. เพื่อเตรียมตัวออกไปดูพระอาทิตย์ขึ้น บน “ดอยกิ่วฝิ่น” รถมารับเวลา 5:30 น. แต่ที่พิเศษ คือ ผู้ใหญ่บ้านมารับเราไปดูพระอาทิตย์เองเลย ^^


(พ่อหลวงประทีป เค้าใช้เวลาว่างมาให้บริการคนที่อยากจะขึ้นไปดูพระอาทิตย์ขึ้นบนดอย หายคัยสนใจ เรามีเบอร์มาให้ด้วยนะ)
(เบอร์ผู้ใหญบ้าน ประทีบ 095-468-7187 พาขึ้นกิ๋วฝื่น 500 บาท ถ้าเกิน 5 คน คิดคนละ 100 บาท ครับ พี่หมีเเนะนำว่าให้คนในหมู่บ้านพาขึ้นเนื่องจาก ถนนมืดมาก ชันมาก ค่อนข้างอันตราย แต่ถ้าต้องการขับขึ้นไปเองแนะนำเกียร์ออโต้ครับ )
สัก 6:30 น. พอพระอาทิตย์ขึ้นแสงแรกของวัน มาแย้ว เราก้อพยพ ย้ายก้นกันลงมา เพราะทนเสียงร้องของท้องที่มันเรียกร้องหาอาหารไม่ไหว ^^ พอมาถึงที่พัก เราก้อาบน้ำ แต่ตัวเตรียมทานอาหารเช้า และออกเดินทางไปจุดหมายต่อไป นั่นคือ The Giant ร้านต้นไม้ยักษ์
(เนื่องจากรถตู้กลับ เชียงใหม่ก็มี 2 เที่ยว น้องหมีจึงคิดว่าเราสามารถนั้งรถตู้พี่ศักดิ์เที่ยวแรก 9.20 ลงไปที่ โครงการหลวงตีนตก และหลังจากไป The Giant ก็กลับรถตู้พี่ศักดิ์รอบ 13.20 ได้ จึงนัดแนะกับพี่ศักดิ์ )

อาหารเช้า “ข้าวต้มปลา” หอมอร่อย

ร้านลุงปุ๊ด – ป้าโป้ง ร้านนี้บอกเลยต้องแวะ เพราะเป็นจุดเช็คพอยอีกที่เลยทีเดียว ด้านในสวย เป็นกันเอง เราจะได้นั่งจิบกาแฟ กินเค้ก ฟังเสียงสายน้ำตก สวยมากๆๆ ต้องมานะ แต่เราได้ได้แวะ เก็บฝากข้างหน้ามาฝากเฉยๆนะ

ร้านแมวดอย เป็นอีกร้านที่น่ามาแวะ ไม่รุข้างในเป็นไง ไว้จะหาข้อมูลมาให้นะ ^^


อันนี้อีกอัน Flight of the Gibbon คัยชอบ adventure เชิญเลย น่าลองมากๆ แต่ถ้าคัยสนใจ มีกฏอยู่ 2 ข้อนะ
- เงิน 3,000 บาท เพราะนี้คือราคาค่าเล่น (จ่ายเงินสดนะ แต่ถ้าจองล่วงหน้าทางโทรศัพท์ น่าจะมีโอนเงินนะค่ะ) —>อันนี้เรามาถึงเเล้วเงิน ไม่พอ อดเล่น
- จองล่วงหน้า 1 วันนะ
แค่นี้เอง คุณก้จะได้เล่นแล้ว แต่พวกเราอดค่ะ เพราะทริปนี้เรามากับแบบประหยัดๆ เลยไม่ได้มีหาข้อมูลมา และเงินในกระเป๋าก้เช่นกัน อด!!! ค่ะ
(เพิ่มเติม….การผจญภัยที่เชียงใหม่นี้ เป็นระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร เหิรฟ้าเหนือยอดไม้บนสาบเคบิลและข้ามสะพานลอยฟ้าที่ยาวและสูงที่สุดในภาคเหนือ เพียง 55 นาทีจากตัวเมืองเชียงใหม่ ณ บ้านแม่กำปอง หมู่บ้านในป่าฝนเขตร้อนที่คงความบริสุทธิ์แต่ดั้งเดิมและมีอุณหภูมิที่ต่ำกว่าตัวเมืองถึง 8-9 องศาเซลเซียส บ้านแม่กำปองนับเป็นหมู่บ้านในเขตป่าชุมชนตัวอย่างเป็นแหล่งปลูกชาและกาแฟที่สมบูรณ์แบบ)
ต่อ…..
เราลงมาจากแม่กำปอง ด้วยรถตู้พี่ศักดิ์ คันเดิม ตรงเวลาแป๊ะ 9:20 น. รถตู้ก็มาถึง เราคุยกับพี่เค้าไว้ว่าจะขอนั่งลงไป โครงการหลวงตีนตก เพื่อต่อรถไป ใจแอนด์ พี่ศักด์ใจดี ส่งเราถึงที่ที่ต้องการ จากนั้น เราก็เดินหาทาง ไจแอนด์ กันต่อ ด้วยรถสองแถวเหมาคัน 500 บาท บอกเลย เหมาเถอะ ทางไปนิชันมาก เหงทางแล้วยอมจ่ายเลย เพราะถ้าขับรถมาเอง อาจเกิดอุบัติเหตุได้ (แต่ถ้าคับสะดวกขับรถ ก็ไม่ว่า ทางดีตลอดสาย แต่ต้องขับระวัง เพราะทางจะชัน ขาเรากลับลงมาเจอพี่รถสองแถวเจ้าถิ่นอีกคัน หลบยุข้างทาง บอกรถเก่งคันหน้าขับไม่หลบ เลยทำให้พี่เค้าเสียหลัก ต้องไปเกาะยุข้างทาง น่าสงสารมาก หากคัยจะขับรถมาเอง น้องหมีขอนะค่ะ ขับรถระวังๆ เผื่อแผ่คันอื่นบ้าง )
(มีจุดขึ้นรถอีกหนึ่งที่เดินลงจากโครงการหลวงตีนตกไปอีกประมาณ 1 กม เขียนไว้ว่าคนละ 50 บาท แต่เอาเข้าจริงต้องรอให้คนครบตามจำนวน ซึ้งไม่รู้เมื่อไหร่ แนะนำว่าเพื่อความสะดวก ก็โทรเหมารถที่โครงการหลวงตีนตกเลยก็ได้เบอร์อยู่ตามต้นไม้ข้างห้องน้ำครับ)
รถรับ-ส่งเราไปใจแอนด์
แผนที่ท่องเที่ยว
The Giant วิวสวยดี จบ…
พอลงมากจาก The Giant เราก้มานะงทานข้าวที่ โครงการหลวงตีนตก
พี่ศักดิ์รถตู้แนะนำว่าอร่อย เราเลยจัดค่ะ
เมนูมีไม่มากนะ ราคาก็พอรับได้ แต่หากคัยอยากทานเปงจานเดียวเค้าก้มีให้นะ ประมาน 4-5 เมนูง่ายๆ (อาทิ ข้าวกระเพาะไก่, ข้าวหมูทอดกระเทียม ประมานนี้) —> เป็นกับข้าว จานละร้อยกว่าบาท ยกเว้น อาหารพิเศษหน่อยก็ 2 ร้อยนิดๆ
มือนี้เราสั่งอาหารมา 3 อย่าง บอกเลยอร่อยมาก มี (อร่อยดีเฉยๆ :P)
1.กระเพาะไก่
2.ผัดผักเห็ดรวม
3.ซีโครงหมูทอด
ปล. กระเพาะที่นี้หน้าตาจะไม่เหมือนที่เราเลยกินนะ รสชาตก้จะออกอีกแบบเพราะเค้าใส่พริกหวานเปงส่วนผสม เลยออกมาหน้าตาแปลกนิดๆๆ
มือนี้จบที่ 400 บาท
เมื่อทานข้าวเสิด รอเวลารถตู้มารับ 13:40 น. แปะมากๆๆ
เราก้นั่งรถตู้กลับมาตัวเมืองเชียงใหม่ พี่เค้าก็ใจดี ส่งเราระหว่างทาน แล้วก้แนะนำให้ขึ้นรถแดง (รถสองแถวนี้แหละที่นี้เรียก “รถแดง”) ไปถนนวัวลาย เพราะมาที่พักของเราคืนนี้
แต่พี่เค้าแนะนะว่า ให้จ่ายคนละ 20 ไปเลย ไม่ต้องถามว่าเท่าไร เพราะไม่งั้นอาจโดนฟันราคาได้ ^^
ปล.ราคาค่ารถประมาณ 20-30 บาท ไม่เกินนี้ ถ้าวิ่งในเมือง
ลงจากรถตู้เราก็โบกรถแดงตามพี่รถตู้บอก มาถนนวัวลาย โฮสเทล OXOTEL ไม่นานเราก็มาถึงที่พักของเรา ^^ บอกเลย ไม่แน่กัว และดีมากๆ เพราะความยังใหม่ของโรงแรม และเปงประสบการณ์ครั้งแรกของเราก้ได้นอนโฮสเทล ตื่นเต้นมากๆๆ ^^
<<<<<<<<<>>>>>>>>>>>

(กำลังมองหาโรงแรมลองเปรียบเทียบราคากับพี่ชายพี่หมีด้านบนนะครับ รวมราคาจากทุกเว็ปไซต์ดัง ราคาถูกมาก)
เราก็เช็คอิน เอากระเป๋าเก็บ นั่งพักสักแพพ รอแดดอ่อนอีกนิด ก้จะออกไปหาไรกิน แบบว่า นั่งรถมาทั้งวัน แต่ก็กินตลอดเวลา ก้ยังหิวยุเหมือนเดิม 5555
สัก 5 โมงเย็นเราก้โบกรถแดงไปถนนนินมาน พอไปถึงก็ ลงค่ะ ลง แล้วก้เดิน เดิน และ เดิน เพราะไม่รุจะกินไร เต็มไปหมด มีร้านอาหารเต็มไปหมด แต่ด้วยความหิว และเงินในกระเป๋าที่เริ่มมีจำกัด เราจึงหันไปเห็นร้านไก่ทอดและขายส้มตำ รออะไร จัดซิค่ะ ไม่ลีลา เข้าไปในร้าน สั่งอาหารเลยจร้าแต่เดี๋ยวนะ ไม่มีคนมารับ ออเดอร์ เลย หันไปเหง self service จบค่ะ สั่งเหง หยิบเอง รออะไรเดินไปเลือกซิค่ะ ^^ แต่บอกเลย ร้านนี้อาฟารเหนืออะไรนะ แนะนำ ตำขนุน อร่อยมากๆ แต่ถ้าอยากกินส้มตำ แนะนำร้านอื่นนะ เพราะร้านนี้ดูว่าพี่นางจะตำส้มตำไม่เปง ~.~
อิ่มค่ะ ร้านนี้จบที่ 295 บาท
(คนขับจะเก็บ 90 บาท แต่พี่หมีต่อรอง จบที่คนละ 20 บาท ^^’)
ร้านไก่ทอดใบมะกรูด
ตำขนุน อร่อยมากๆ
ราคาเบากระเป๋า อิ่มท้องสบาย
DAY 3
Morning ฝรั่งเต็มโฮลเทล เรารีบตื่นมาล้างหน้าแปรงฟัน ลงมานั่งระบประทานอาหารเช้าด้วยการนั่งดูฝรั่งล่ำๆ ขาวๆ นั่งกินขนมปังอย่างเพลิดเพลิน….ความสุขเล็กๆของน้องหมี ^^ ชิส์
กินแล้วล้างด้วย จบนะ
บริการตัวเอง ตามสบาย
ด้วยเย็นนี้เราจะกลับ BKK (กลับสู่โลกของการทำงานหาเงินมาเที่ยว^^) เราเลยตัดสินใจหาอาหารที่เราอยากกินตั้งแต่มาถึง แต่บ่ได้กินเพราะมันหมดนั่นคือ “ข้าวซอย” search พี่ google หาร้านดัง ร้านอร่อย สรุปได้ร้าน ข้าวซอยแม่สาย ยุถนนราชพฤกษ์ เรารีบเก็บของนั่งรถแดงมุ่งหน้าไปร้านนี้ทันทีเพื่อไม่เสียเวลา…..พอมาถึงก็เจอกับป้ายนี้ค่ะ “ปิดค่ะ” 
หมีคอตก ทำตาละห้อย~~~~ อดกินแล้วซินะเรา ด้วยความผิดหวังก้เดินไปเรื่อยๆไม่ถึง 10 ก้าว เราก้เจอสวรรค์ อิอิ ได้กินข้าวซอยแย้ว นั่นคือร้าน “เฮือนม่วนใจ”
ไม่รีรอหาโต๊ะนั่ง สั่งกระจายค่ะ
แล้วก้ได้เมนูมาตามนี้
1.ข้าวซอยไก่
2.ผัดเชียงดาใส่ไข่ ***เมนูนี้อร่อย ต้องจัด*** อร่อยจริง
3.แกงคั่วยอดมะพร้าวใส่ไก่
4.หน่อไม้ยัดใส้หมู เมนูนี้ข้ามไปก่อน รสชาติหน่อไม้กับหมูแยกออกจากกัน คือ ไม่เข้ากันอะ
5.แกงผักหวานไข่มดแดง
(ดีกรีความอร่อย จาก wongnai ให้ 4 ดาวกับอีกนิดนุง พร้อมป้ายเกียรติคุณติดผนังอีกหลายรายการ)
พอท้องอิ่ม เราก้กลับไปที่กาดหลวง (ตลาดเสาวรส วโรรส) เพื่อหาซื้อของฝาก (กลับไปซื้อไส้อั่ว ร้านดำรงค์ ที่เจอวันแรก) ได้ของตามต้องการ ก้นั่งรถแดงไปสนามบิน กลับสู่โลกของการทำงานกัน
(ร้านขายของส่วนใหญ่มีเบอร์ให้โทรสั่งแล้วส่งไปรษณีด้วย ตอนออกมาโบกรถสองแถวไปสนามบิน พี่เค้าคิดคนละ 50 บาท พี่หมีต่อคนละ 40 บาท ก็ไม่มีปัญหาอะไร ูู^ ^ ถ้าไม่นั้งรถสองแถวก็มีตัวเลือกเป็นรถเมล์แอร์คันใหญ่วิ่งรอบเมือง 20 บาทตลอดสาย ไม่ต้องต่อรองราคา )
จบแย้วค่ะ พี่หมีขอต่อด้านล่างนิดนุง
หากใครอยากเช่ารถก็ได้แต่แนะนำว่าควรเป็นคนที่ขับรถแข็งถ้าหากจะขึ้นแม่กำปอง กอ้วฝิ่น และ The Giant เนื่องจากถนนชันและอันตราย ถ้ามาวันธรรมดาแนะนำให้ซื้อคูปองเช่ารถของ Avis ในเว็ป Kaidee จะได้ราคาถูกที่สุด ถ้าเสาร์อาทิตย์บวกเงินเพิ่ม อาจจะไม่คุ้ม ให้ดีจ่ายเพิ่มเป็นเช่ารถแบบ no deduction เวลารถมีปัญหาจะได้ไม่ต้องจากค่าเสียหาย ยกเว้นกรณียางเเตก ก็ต้องจ่ายอยู่ดี
ราคามอเตอร์ไซต์มาตรฐาน 200 มีเกียร์ 250 ออโต้ ถ้าขับแข็งขับในเชียงใหม่ก็ดี แต่รถค่อนข้างเยอะครับ
แต่สำหรับเพื่อนๆ ที่มาเที่ยวแบบคนไม่เยอะ เเละไม่อยากขับรถ แนะนำให้ตามรอยเรามาเลยครับ รับรองว่า เที่ยวสนุก และปลอดภัยทุกคนครับ
สุดท้ายขอบคุณ พี่ศักดิ์เจ้าของวินรถตู้ พี่เชิดเจ้าของบ้านอิงดอย พี่วุฒิบาริสต้าอิงดอย และ พ่อหลวงประทีป สำหรับการเที่ยวครั้งนี้ พร้อมแลกเปลี่ยนพูดคุยถึงการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน หวังว่าจะปกป้องหมู่บ้านแม่กำปองให้น่าเที่ยวแบบนี้ไปนานๆ ครับ
By น้องหมี (พี่หมีเพิ่มเติมด้วยสีน้ำเงิน)
ถ้าชอบที่รีวิวก็กดจองโรงแรมด้านล่างได้นะครับ หรือจะลองไปค้าหาโรงแรมแล้วกดเข้าไปดูโรงแรมตามเว็ปต่างๆก็ยังดี แค่นี้ก็ถือว่าได้ช่วยพี่หมีน้องหมีหาทุนเขียนรีวิวเเล้วครับ 










